การว่ายน้ำเป็นกิจกรรมที่มีผลต่อสุขภาพร่างกายและจิตใจ เพราะช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงของร่างกายในทุก ๆ ส่วน ไม่ว่าจะเป็นกล้ามเนื้อแขน ขา รวมไปถึงระบบหัวใจและทางเดินหายใจ การว่ายน้ำยังสามารถช่วยลดความเครียดให้กับคนที่กำลังว่ายอยู่ได้ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้และท้าทายความสามารถในการว่ายน้ำมากยิ่งขึ้น จะพาไปรู้จักกับท่าว่ายน้ำว่ามีท่าอะไรบ้าง และมีวิธีการฝึกฝนอย่างไรให้สามารถว่ายท่าเหล่านั้นได้อย่างชำนาญมากที่สุด
ท่าว่ายน้ำมาตรฐานมีอะไรบ้าง
ทำความรู้จัก 4 ท่าว่ายน้ำที่เป็นมาตรฐาน
1. ท่าฟรีสไตล์ (Freestyle)
เป็นท่าพื้นฐานที่มีคนนิยมว่ายมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ง่าย ฝึกไม่นานก็สามารถว่ายได้เอง ทั้งยังเป็นท่าว่ายน้ำที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดและเร็วที่สุดด้วย
2. ท่ากรรเชียง (Backstroke)
เป็นอีกหนึ่งท่าที่ว่ายได้ง่ายไม่แพ้ฟรีสไตล์ โดยเฉพาะคนที่มีพื้นฐานการว่ายฟรีสไตล์มาก่อน หากการว่ายฟรีสไตล์คือการคว่ำหน้าลงกับน้ำในสระ ท่ากรรเชียงคือการหงายหน้ามองท้องฟ้าพร้อมกับวาดแขนขึ้นเหนือศีรษะหมุนลงใต้น้ำเหมือนท่าฟรีสไตล์ เพียงแต่ทำในลักษณะกลับหลังพร้อมกับตีขาเหมือนกัน
3. ท่ากบ (Breaststroke)
เป็นท่าที่ลอกเลียนแบบการว่ายน้ำของกบ โดยมีวิธีการว่ายคือใช้แขนแหวกน้ำและดึงออกข้างเข้าหาลำตัว ส่วนขาจะงอและเตะออกพร้อมกันทั้งสองขา เป็นท่าที่ช่วยเสริมสร้างความแข็งแรงให้กับแขน ขา และระบบหายใจ
4. ท่าผีเสื้อ (Butterfly stroke)
เป็นท่าที่ใช้พละกำลังมากที่สุด เพราะต้องดันตัวเองให้ขึ้นมาพ้นผิวน้ำก่อนมุดลงไป โดยใช้ขาในการงอและตีพร้อมกันทั้ง 2 ข้างเหมือนหางของปลาโลมา เป็นท่าที่จะต้องใช้กล้ามเนื้อทุกส่วนของร่างกาย ไม่เหมาะกับคนที่เพิ่งเริ่มต้นฝึกว่ายน้ำ
เทคนิคพื้นฐานที่ช่วยให้ท่าว่ายน้ำดำเนินไปได้อย่างถูกต้อง
สำหรับใครที่สนใจและอยากเรียนรู้การว่ายน้ำที่ถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นเพื่อการแข่งขันหรือใช้เอาตัวรอดในยามฉุกเฉินเมื่อประสบเหตุทางน้ำ จำเป็นที่จะต้องเรียนรู้เทคนิคพื้นฐานสำหรับการเรียนว่ายน้ำ ซึ่งมีวิธีการดังนี้
-
- ฝึกให้คุ้นชินกับน้ำ เนื่องจากคนว่ายน้ำไม่เป็นส่วนใหญ่มักจะกลัวสระว่ายน้ำ บ่อน้ำ หรือทะเล เพราะด้วยความรู้สึกว่าตนเองว่ายน้ำไม่เป็นจึงไม่กล้าที่จะลงน้ำ จำเป็นที่จะต้องฝึกความคุ้นชินเสียก่อน โดยนั่งกับขอบสระให้ขาแช่ลงไปในน้ำแล้วใช้มือกวักน้ำขึ้นมาลูบไล้ตามแขนและตัว เพื่อเป็นการปรับสภาพร่างกาย จากนั้นฝึกด้วยการเหยียดขาให้ตึงพร้อมกับใช้ขาตีน้ำขึ้นลงสลับไปมาโดยเริ่มจากช้าไปเร็ว
- ฝึกการหายใจและลืมตาในน้ำ ด้วยการลงสระในบริเวณน้ำตื้นระดับเอว ใช้มือจับขอบสระ กลั้นหายใจ จากนั้นค่อย ๆ ย่อตัวลงไปในน้ำและต้องลืมตาขณะอยู่ใต้น้ำด้วย นับ 1 – 5 ในใจ แล้วจึงลุกยืนให้หัวพ้นน้ำ หายใจให้เต็มปอด ฝึกทำซ้ำ ๆ และค่อย ๆ เพิ่มเวลาการกลั้นหายใจในน้ำจากนับ 5 เป็น 10, 15, 20, 30 หรือเท่าที่สามารถทำได้
- ฝึกตีขาในน้ำตื้น เมื่อร่างกายมีความคุ้นชินกับน้ำและไม่เกิดความกลัวแล้ว ให้ลงสระบริเวณน้ำตื้นระดับเอว ใช้มือจับขอบสระพร้อมกับตีขาสลับไปมา โดยให้ลำตัวขนานกับพื้นน้ำ
เทคนิคเพื่อความเร็วและประสิทธิภาพของการว่ายน้ำ
สำหรับใครที่มีเป้าหมายหรือมีความมุ่งมั่นที่จะเป็นนักกีฬาว่ายน้ำหรือต้องการพัฒนาตนเองให้มีความสามารถมากยิ่งขึ้น จำเป็นที่จะต้องฝึกฝนการว่ายน้ำอย่างสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังต้องมีการฝึกฝนส่วนอื่น ๆ เข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
เทคนิคการเร่งรัดท่าว่ายน้ำต่าง ๆ
เป็นท่าพื้นฐานที่มีคนนิยมว่ายมากที่สุด เพราะเป็นท่าที่ง่าย ฝึกไม่นานก็สามารถว่ายได้เอง ทั้งยังเป็นท่าว่ายน้ำที่ใช้พลังงานน้อยที่สุดและเร็วที่สุดด้วย
-
-
- ท่าฟรีสไตล์ ควรเพิ่มรอบแขนและขาให้เคลื่อนที่ได้เร็วขึ้น มากขึ้น เพื่อดันตนเองให้พุ่งไปข้างหน้าด้วยความเร็ว
- ท่ากรรเชียง จะมีเทคนิคคล้าย ๆ กับท่าฟรีสไตล์ แต่ควรเสริมกล้ามเนื้อในส่วนของแกนกลางลำตัว เพื่อไม่ให้ลำตัวส่ายไปมาในขณะว่าย กับใช้แขนและขาให้ไวขึ้น
- ท่ากบและท่าผีเสื้อ เป็นท่าที่ยากและใช้พละกำลังสูง จึงควรเพิ่มการออกกำลังกายด้วยการเวทเทรนนิ่ง เสริมสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวและหัวไหล่ให้แข็งแรง มีกำลังในการตีน้ำ เพื่อให้เกิดความคล่องแคล่ว ใช้แขนขาได้สัมพันธ์กันและเร็วขึ้น
- การฝึกกลับตัว การว่ายน้ำจะต้องฝึกการกลับตัวให้มีความรวดเร็วเมื่อว่ายไปถึงอีกฝั่ง เพื่อที่จะได้ไม่เสียจังหวะและเวลาในการกลับตัว
-
การปฏิบัติท่าว่ายน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นเคล็ดลับที่จะช่วยให้การว่ายน้ำมีความสนุกและมีประสิทธิภาพมากยิ่งโดยเฉพาะมือใหม่ เพราะถือเป็นเบสิกขั้นพื้นฐานที่จะช่วยให้มือใหม่พัฒนาต่อยอดไปเป็นนักกีฬาระดับแนวหน้าได้
-
-
- ตำแหน่งของศีรษะ ที่มักจะเงยหน้าขึ้นเหนือน้ำทำให้ส่วนขาจมลงเพราะกังวลเกี่ยวกับการหายใจ ควรเปลี่ยนเป็นมองลงไปที่พื้นของสระ ซึ่งจะทำให้ขาลอย เตะน้ำได้ดีขึ้น และยังทำให้เหนื่อยน้อยลงด้วย
- การวางมือและท่อนแขน ควรแนบชิดกับลำตัวและหาระดับของการวางมือลงไปในน้ำ โดยไม่ให้แขนตึงเกินไป เพราะจะทำให้ไหล่อีกข้างเอียงและเสียสมดุลในการว่ายน้ำ
- การใช้ขาเตะน้ำมีความสำคัญมาก เพราะเป็นส่วนที่ใช้ออกแรงมากที่สุด แต่จะทำอย่างไรให้เตะได้แรงและดีดได้ไกลในขณะที่ใช้แรงน้อยลง นั่นก็คือในช่วงที่ขาข้างใดข้างหนึ่งเตะน้ำ ขาอีกข้างให้เหยียดตรง ห้ามงอ เพื่อพยุงลำตัวและสะโพกให้ลอยอยู่ตลอดเวลา
- ในการว่ายน้ำให้ดีและมีประสิทธิภาพคือการลดแรงต้านจากน้ำให้น้อยที่สุด เพราะจะทำให้ผู้ว่ายออกแรงน้อยลงแต่ได้ผลลัพธ์ที่ดี นั่นคือขณะที่ว่ายตัวจะต้องเหยียดตรง จังหวะแขนและขาต้องสัมพันธ์กัน จะช่วยลดแรงเสียดทานจากผิวน้ำและทำให้จังหวะการว่ายไปได้ไกลขึ้น
-
การฝึกและปรับปรุงเทคนิคการว่ายน้ำ
วิธีการฝึกซ้อมเพื่อปรับปรุงท่าว่ายน้ำ
หากมีความตั้งใจและต้องการที่จะพัฒนาการว่ายน้ำของตนเองให้ดีขึ้น ควรทำการวางแผนและกำหนดตารางการฝึกซ้อมให้เหมือนนักกีฬาอาชีพ เพื่อจะได้ไปถึงเป้าหมายที่ตั้งใจไว้ ซึ่งการว่ายน้ำให้ดีและมีประสิทธิภาพเห็นผลลัพธ์ที่ดีเยี่ยมไม่ใช่ต้องอาศัยการว่ายน้ำเพียงอย่างเดียว แต่ยังต้องฝึกฝนทางร่างกายและอื่น ๆ ประกอบด้วย เช่น การสร้างกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัว ไหล่ หลัง แขน และขา เพื่อให้เกิดสมดุลในการว่ายน้ำ โดยเฉพาะกล้ามเนื้อแกนกลางลำตัวยิ่งมีความแข็งแรงและมีความนิ่งมากขึ้น จะยิ่งทำให้ว่ายน้ำได้เร็วมากขึ้น เพราะลำตัว สะโพก แขน ขา จะไม่ส่ายไปมาในขณะว่ายน้ำ การฝึกท่วงท่าของแขนก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน ยิ่งวาดแขนได้เร็วเท่าไร ยิ่งช่วยให้ว่ายน้ำให้เร็วขึ้นมาก ให้โฟกัสจุดที่ต้องการและทำการฝึกซ้ำไปซ้ำมาให้เกิดความคุ้นเคย
เทคนิคที่ช่วยในการแก้ไขข้อผิดพลาดและปรับปรุงความสามารถทางว่ายน้ำ
คงปฏิเสธไม่ได้ว่านักกีฬาทุกคนจะต้องได้รับการฝึกฝนและปรับปรุงตนเองอยู่เสมอ สิ่งที่ตอบโจทย์สำหรับการฝึกนี้ได้ก็จะมีโค้ช ผู้ฝึกสอน และกล้องวิดีโอสำหรับบันทึกการฝึกของตนเอง เมื่อฝึกเสร็จให้นำมาดูเพื่อหาข้อบกพร่อง พร้อมกับกำหนดเป้าหมายในการฝึกทุกครั้ง เช่น ลดเวลาลง 1 วินาที เป็นต้น เพื่อให้มั่นใจว่าตนเองมีการพัฒนาและได้รับการฝึกที่ถูกต้องอย่างต่อเนื่อง
บทส่งท้าย
สำหรับผู้เริ่มต้นและต้องการปูพื้นฐานเรียนรู้การว่ายน้ำให้ถูกต้องและมีความปลอดภัย ขอแนะนำให้ฝึกท่าว่ายน้ำในสระขนาดเล็กเพื่อให้เกิดความคุ้นชินและมีพื้นฐานการว่ายที่ดีพอ ก่อนที่จะขยับตนเองไปสระขนาดกลางและขนาดใหญ่ เพื่อเป้าหมายของการเป็นนักกีฬาว่ายน้ำที่ยอดเยี่ยมต่อไป แนะนำเป็น สระน้ำ INTEX สำหรับเริ่มต้นครับ
บทความที่เกี่ยวข้อง
– แนะนำ 3 ขนาดสระว่ายน้ำ ที่นิยมสร้างในบ้าน
– สร้างสระว่ายน้ำในบ้านระบบเกลือ ด้วยงบ 200,000 บาท
– วิธีการดูแลสระว่ายน้ำระบบเกลือให้ใช้งานได้นานเกิน 10 ปีขึ้นไป
– สร้างรีสอร์ท ต้องเลือกสระว่ายน้ำอย่างไร ?
– การทำรีสอร์ทขนาดเล็ก อย่างไรให้คืนทุนไว กำไรแบบจุกๆ
– สร้างบ้านพูลวิลล่าในฝัน งบ 2 ล้าน เป็นไปได้มั้ย ???